วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสัปดาห์ที่ 4

ปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ต กำลังอยู่ในยุคกลางหรือยุคปลาย ๆ ของ web 2.0 กันแล้ว จึงทำให้มีเว็บไซต์ในลักษณะ Social Networking Service (SNS) ออกมามากมาย เป็นบริการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นจุดโยงระหว่างบุคคลแต่ละคนที่มีเครือข่าย สังคมของตัวเองผ่านเน็ตเวิร์คอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเชื่อมโยงบริการต่างๆ อย่างเมล เมสเซ็นเจอร์ เว็บบอร์ด บล็อก ฯลฯ เข้าด้วยกันตั้งแต่ Hi5, MySpace, Facebook, Bebo, LinkedIn, Multiply, Ning และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดจะมีส่วนที่คล้ายกันคือ "การแอ๊ดเพื่อน" ตามหลักการ Friend-Of-A-Friend (FOAF) โดยปกติแล้วสิ่งที่ SNS ให้บริการพื้นฐานคือ การให้ผู้สนใจสร้าง profile ลงในเว็บ บางที่อาจอนุญาตให้อัพโหลดไฟล์แบบต่างๆ ไม่ว่าจะภาพ เสียง หรือ คลิปวีดีโอ จากนั้นก็จะมีเรื่องของการ comment (เม้นต์) มี Personal Messeage (PM) ให้คุยส่วนตัวกับเพื่อนบางคน และที่ต้องทำก็คือ ไล่อ่าน ไล่เม้นต์ ไปตาม Profile ของคนอื่นเรื่อยๆ

Social Network ยังไม่มีคำไทยเป็นทางการ มีการใช้คำว่า “เครือข่ายสังคม” บ้าง “เครือข่ายมิตรภาพบ้าง” “กลุ่มสังคมออนไลน์” Social Network นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีอีกอันนึง ที่สามารถช่วยให้เราได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคำว่า Social Network นี้จริงๆ แล้วก็คือ Participation หรือ การมีส่วนร่วมด้วยกันได้ทุก ๆ คน (ซึ่งหวังว่าผู้ที่ติดต่อกันเหล่านั้นจะมีแต่ความปรารถนาดี สิ่งที่ดีๆ มอบให้แก่กันและกัน) ถ้าพูดถึง Social Network แล้ว คนที่อยู่ในโลกออนไลน์คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และก็คงมีอีกหลายคนที่ได้เข้าไปท่องอยู่ในโลกของ Social Network มาแล้ว ถึงแม้ว่า Social Network จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในโลกออนไลน์ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้เครือข่ายขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ และจะยังคงแรงต่อไปอีกในอนาคต จากผลการสำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกายืนยันการใช้บริการ Social Network ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมาแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกออนไลน์ ส่วนเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดทั่วโลก ก็เห็นจะเป็น My space, Facebook และ Orkut สำหรับเว็บไซต์ ที่มีเปอร์เซ็นต์เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็เห็นจะเป็น Facebook แต่สำหรับประเทศไทยที่ฮอตฮิตมากๆ

โปรเจ็ค

การผลิต EM

การทำ EM จากเศษผักผลไม้

เกร็ดความรู้จากการศึกษาดูงานตลาดศูนย์การค้า กำแพงเพชร


EM ย่อมาจาก Effective Microorganisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง Dr.Teruo Higa ผู้เชี่ยวชาญสาขาพืชสวนมหาวิทยาลัยริวคิว เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2526
อีเอ็ม หรือน้ำจุลินทรีย์ มีลักษณะเป็นของเหลว สีน้ำตาลดำ มีกลิ่นอมเปรี้ยวอมหวาน ค่า พีเอช อยู่ที่ประมาณ 3.5 ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิตจำนวนมากกว่า 80 ชนิด จึงไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมี หรือยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ อีเอ็ม ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน์ แต่ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ถ้านำไปใช้ในการล้างตลาด จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น ลดจำนวนสัตว์และแมลงพาหะนำโรค ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก อีเอ็ม จะทำงานในที่มืดได้ดี ดังนั้น การล้างตลาด ควรกระทำในช่วงเวลาเย็น เพื่อให้การกำจัดสิ่งสกปรกทั้งหลายเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลักษณะเฉพาะของ อีเอ็ม คือ เป็นจุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์ ดังนั้น เวลาจะใช้ อีเอ็ม ต้องคิดอยู่เสมอว่า อีเอ็ม เป็นสิ่งมีชีวิต ต้องการที่อยู่ที่เหมาะสมในอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนเกินไป หรือเย็นเกินไป ต้องการอาหารจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาล รำข้าว โปรตีน และสารประกอบอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เราจึงสามารถขยายหรือผลิต อีเอ็ม ได้เองจากพืชผักผลไม้และผลผลิตจากธรรมชาติ โดยนำไปหมักตามกรรมวิธีที่ถูกต้อง
การผลิต อีเอ็ม เพื่อใช้ในกิจกรรมตลาดสด หรือกิจกรรมอื่นใดก็ตาม ก่อนอื่นต้องผลิต หัวเชื้อจุลินทรีย ในปริมาณตามที่ต้องการ แล้วจึงนำหัวเชื้อที่ได้ไปขยายเป็น อีเอ็ม อีกทีหนึ่ง

ขั้นตอนการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์
เริ่มจากการนำผักผลไม้มาสับให้ เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใส่ภาชนะปิดฝาให้มิดชิด ขั้นตอนต่อมาให้นำผักผลไม้ไปผสมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว ในอัตราส่วน 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน เมื่อดูว่าส่วนผสมต่างๆ เข้ากันดีแล้ว ให้ปิดฝาทิ้งไว้ แล้วควรหมั่นกวนทุก ๆ 5-7 วัน เพื่อให้เศษผักสัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการย่อยสลายได้ดีขึ้น โดยหมักทิ้งไว้ 1-2 เดือน เมื่อครบกำหนดจะสังเกตเห็นมีน้ำออกมาผสมอยู่ ซึ่งน้ำที่ได้จากการหมักนี้ก็คือน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์นั่นเอง ส่วนการเก็บรักษานั้นให้นำน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้ รินเก็บใส่ไว้ในขวดปิดฝาให้สนิท พร้อมที่จะเอาไปใช้ประโยชน์หรือนำไปใช้หมักทำน้ำจุลินทรีย์ (EM) ต่อไป

ขั้นตอนการทำน้ำจุลินทรีย์ (EM)
วิธีการจะคล้าย ๆ กับการทำน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์ ต่างกันตรงที่ ระยะเวลา ในการหมักจะสั้นกว่าเท่านั้นเอง

ก่อนอื่นเราต้องเตรียมอุปกรณ์การทำ ดังนี้

1. ถังพลาสติกมีฝาปิด
2. ถุงปุ๋ย
3. กากน้ำตาล (โมลาท) หรือน้ำตาลทรายแดง
4. หัวเชื้อจุลินทรีย์
5. เศษผักผลไม้ เศษอาหาร


1. ถังพลาสติกมีฝาปิด 2. ถุงปุ๋ย

3. กากน้ำตาล (โมลาท) 4. หัวเชื้อจุลินทรีย์

5. เศษผักผลไม้ เศษอาหาร

เมื่อเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนการหมัก

ขั้นตอนแรก ใส่น้ำลงไปในถัง จำนวน 8 ลิตร ถ้าหากใช้น้ำประปา ควรใส่ถังเปิดฝาทิ้งไว้
2 วัน เพื่อให้คลอรีนระเหยไปเสียก่อน

ขั้นตอนที่ 2 นำกากน้ำตาล 250 ซีซี. หรือน้ำตาลทรายแดง 300 กรัม (ประมาณ 3 ขีด) เทใส่ลงไป คนให้ละลาย

ขั้นตอนที่ 3 นำน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์ 250 ซีซี. ผสมลงไป คนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อคนส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันดีแล้ว ให้นำเศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในถุงปุ๋ย แล้วนำถุงปุ๋ยนั้นใส่ลงในถังหมักดังกล่าว กดให้น้ำท่วมถุง หรือหาวัตถุที่มีน้ำหนักวางทับลงไปอีกทีหนึ่ง จากนั้นก็ปิดฝาให้สนิท

ในกรณีที่เราจะหมักเศษอาหารหรือเศษผักผลไม้เพิ่มเติมลงไปในนั้น ก็สามารถนำไปใส่ลงในถุงปุ๋ยได้เช่นกัน แต่ถ้าหากน้ำจุลินทรีย์มีปริมาณไม่พอที่จะท่วมเศษอาหารในถุงปุ๋ยได้ ก็ให้เติมน้ำเปล่าและกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดงลงไป ในอัตราส่วน น้ำเปล่า 8 ลิตร ต่อกากน้ำตาล 250 ซีซี. หรือน้ำตาลทรายแดง 300 กรัม ผสมลงไป เมื่อผสมส่วนต่าง ๆ จนครบแล้ว ให้หมักทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เราก็สามารถนำน้ำจุลินทรีย์ธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้

ประโยชน์ของน้ำจุลินทรีย์
น้ำจุลินทรีย์ที่ได้นั้นจะมีกลิ่นหอมปราศจากกลิ่นเหม็น น้ำจุลินทรีย์หรือขยะหอมที่ได้นั้นออกจะดูสีสรรไม่สวย แต่เมื่อพูดถึงประโยชน์ในการใช้งานแล้ว มีมากมายหลายประการด้วยกัน เช่น ถ้าที่ไหนส้วมเต็ม หรือท่อระบายน้ำอุดตัน เพียงแค่เทน้ำจุลินทรีย์ธรรมชาติลงไป จุลินทรีย์นั้นจะไปช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ที่ตกค้าง และจะทำให้ส้วมไม่เต็มเร็ว ท่อระบายน้ำก็ไม่อุดตัน ประโยชน์ข้อต่อมา สามารถใช้ดับกลิ่นเหม็นต่าง ๆ ได้อย่างดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นของห้องส้วม กองขยะ หรือท่อระบายน้ำ โดยนำน้ำ จุลินทรีย์ 1 ส่วน ผสมน้ำ 10 ส่วน ราดลงไปบริเวณที่มีกลิ่น หรือผสมจุลินทรีย์ลงไปในถังบรรจุน้ำ ใช้ฉีดล้างตลาด ช่วยดับกลิ่นและกำจัดแมลงวัน แมลงสาบได้ผลดี นอกจากนี้ ถ้านำน้ำจุลินทรีย์ 1 ส่วน ผสมน้ำ 500 ส่วน นำไปฉีดหรือรดที่ใบหรือโคนต้นไม้ สัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช และยังช่วยลดการก่อกวนของแมลงได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับเศษขยะที่เหลือจากการหมัก สามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยที่มีคุณภาพดี เพราะเมื่อนำมาผสมกับดินในอัตราส่วน 1:1 จุลินทรีย์ที่แทรกตัวอยู่ในเศษขยะ จะช่วยเร่งการย่อยสลายสารอินทรีย์ ให้กลายเป็นปุ๋ยได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชดูดซับธาตุอาหารต่างๆ ทำให้พืชมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

http://school.obec.go.th/sawa/sawang7.htm
http://www.fancycarp.com/koitip/em/index.html

"เจ้าของตลาดสดและสมาชิกชมรมผู้ขายของในตลาดท่านใด สนใจ ซีดี บรรยายวิธีทำน้ำจุลินทรีย์ (EM) หรือขยะหอม ติดต่อได้ที่ศูนย์อนามัยที่ 4 ราชบุรี ทางศูนย์ฯจะจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าบริการ”

ข่าวสัปดาห์ที่ 3

เว็บเครือข่ายสังคม สามารถช่วยโปรโมตเว็บไซต์เราได้ยังไง ?…

pccompete – ทุกคนคงทราบกันดีแล้วนะครับว่า เว็บเครือข่ายสังคมนั้นจะเกี่ยวกับการที่พวกเราเข้าม…

[...] การทำการตลาด โดยใช้ Social Networks ที่อยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ เป็นสื่อนั้น ถ้าหากได้ใช้อย่างถูกวิธี แล้วก็มีการวางแผนที่ดีแล้วด้วยเนี่ย ก็สามารถที่จะช่วย ในการนำคนเข้ามาสู่เว็บไซต์เราได้ (Traffic) ซึ่งก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าหากว่าเราจะสามารถที่จะเปลี่ยน จากคนที่เข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรานั้น ให้มาเป็นลูกค้าของเรา โดยการซื้อสินค้า หรือว่าบริการจากเราได้ (Conversion) มากกว่าการที่เราจะมานั่งคอยเวลา แล้วก็พึ่งโชค หรือว่าดวงแต่เพียงอย่างเดียว ในการที่จะคาดหวังว่าจะมีคนมาซื้อสินค้า หรือว่าบริการจากเราหรือเปล่า? [...]

ข่าวสัปดาห์ที่ 2

ถ้าใครได้เข้าไปใช้ Facebook เป็นประจำเหมือนผมแล้วละก็ คุณก็สามารถที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกในกลุ่มต่างๆ แล้วก็แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในสิ่งที่เราชอบ หรือว่าเราถนัดได้ ยิ่งถ้าคุณมีการแสดงความคิดเห็นบ่อยๆ หรือว่าเป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมในกลุ่มนั้นๆ มากๆ แล้วละก็ วิธีการนี้ก็จะทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณเป็นคนที่มีค่า แล้วก็เป็นสมาชิกคนสำคัญในกลุ่มของพวกเค้า ซึ่งสิ่งที่คุณหรือว่าคนอื่นได้โพสไว้นั้น อาจจะมีลิงค์ส่งกลับมาที่เว็บของคุณก็เป็นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีบทความที่ดีๆ อยู่ในเว็บไซต์ของคุณ แล้วพวกเค้าเหล่านั้นต้องการที่จะอ้างอิงมาที่เว็บไซต์ของคุณ เพื่อที่ว่าคนอื่นๆ ที่สนใจจะได้ตามมาอ่านบทความของคุณเพิ่มเติมต่อไป เป็นต้น อันนี้ก็ถือว่าเป็น win/win ใช่มั๊ยครับ คือเราโพสแต่สิ่งดี ๆ มีประโยชน์ แล้วก็เพิ่มคุณค่าให้กับพวกเค้าได้อ่าน (ข้อดีต่อสังคม) แล้วพวกเค้าก็จะตามมาอ่านบทความต่างๆ ในเว็บไซต์ของคุณต่อไป ซึ่งก็จะทำให้จำนวนของผู้ที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งอันนี้ก็ถือว่าเป็นผลดีต่อเว็บไซต์ของเรานะครับ

ข่าวสัปดาห์ที่ 1

เว็บ เครือข่ายสังคม สามารถช่วยโปรโมตเว็บไซต์เราได้ยังไง?

ทุกคนคงทราบกันดีแล้วนะครับว่า เว็บเครือข่าย สังคมนั้นจะเกี่ยวกับการที่พวกเราเข้ามามีส่วนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันระหว่างเพื่อนเรา หรือว่าบุคคลอื่นๆ ที่มีความสนใจในเรื่องต่างๆ เรื่องเดียวกันกับเรา รวมทั้งเป็นที่ๆ ให้พวกเราสามารถแสดงความคิดเห็น หรือว่าแสดงความเป็นผู้นำทางความคิดในด้านใดด้านหนึ่งที่เชี่ยวชาญ ซึ่งสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับคนต่างๆ เหล่านั้นได้ ยิ่งถ้าหากว่าคนๆ นั้นมีความน่าเชื่อถือในด้านในด้านหนึ่งเป็นพิเศษแล้วละก็ สิ่งที่เค้าคิดแล้วก็นำเสนอให้แก่ผู้อื่นนั้น ก็จะสามารถที่จะได้รับการยอมรับจากสังคมได้ง่ายกว่า เป็นต้น


Social Media Cafe